top of page
Search
  • Writer's pictureดา วนิดา

meat processing


อาหารจาก เนื้อสัตว์คุณภาพดี มีข้อเสียอะไรบ้าง

อาหารจาก เนื้อสัตว์คุณภาพดี มีข้อเสียในด้านต่อไปนี้

  • เป็นแหล่งไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล เนื้อสัตว์บางประเภท เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง การบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอ้วน

  • เป็นแหล่งสารก่อมะเร็ง การปรุงอาหารเนื้อสัตว์ด้วยความร้อนสูง เช่น การย่าง การทอด การรมควัน อาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เช่น สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAH) และสารไนโตรซามีน (nitrosamine)

  • เป็นแหล่งเชื้อโรค เนื้อสัตว์ดิบหรือที่ปรุงสุกไม่เพียงพออาจปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น เชื้อซาลโมเนลลา เชื้ออีโคไล และเชื้อลิสเตอเรีย การติดเชื้อจากเชื้อโรคเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้

นอกจากนี้ การบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน มลพิษทางอากาศ และมลพิษทางน้ำ


ตัวอย่างข้อเสียของอาหารจากเนื้อสัตว์

  • โรคอ้วน การบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วน เนื่องจากไขมันเหล่านี้จะถูกสะสมในร่างกายเป็นไขมันส่วนเกิน แปรรูปเนื้อสัตว์

  • โรคหัวใจ การบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เนื่องจากไขมันเหล่านี้จะสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตัน

  • โรคหลอดเลือดสมอง การบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากไขมันเหล่านี้จะสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตัน ประโยชน์จากเนื้อสัตว์

  • โรคมะเร็ง การบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกด้วยความร้อนสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม

  • โรคอาหารเป็นพิษ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือที่ปรุงสุกไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ เช่น ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง คลื่นไส้

  • ภาวะโลกร้อน การเลี้ยงสัตว์ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

  • มลพิษทางอากาศ การเลี้ยงสัตว์ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น กลิ่นเหม็น ฝุ่นละออง และสารเคมี

  • มลพิษทางน้ำ น้ำเสียจากฟาร์มปศุสัตว์อาจปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง และทะเล

ดังนั้น ควรบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสม โดยผู้ใหญ่ควรบริโภคเนื้อสัตว์ประมาณ 50-75 กรัมต่อวัน และควรเลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่สดใหม่ สะอาด ไม่ติดมัน และปรุงสุกอย่างเหมาะสม

ที่มาของการแปรรูปเนื้อสัตว์


วิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์ในสมัยโบราณ

  • การตากแห้ง

  • การรมควัน

  • การดอง

  • การเค็ม

การตากแห้งเป็นวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุด โดยการนำเนื้อสัตว์ไปตากแดดจนแห้ง ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และทำให้เนื้อสัตว์มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น การรมควันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์ที่เก่าแก่เช่นกัน โดยการนำเนื้อสัตว์ไปรมควันด้วยไม้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์อีกด้วย การดองเป็นวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์โดยใช้เกลือเพื่อดึงน้ำออกจากเนื้อสัตว์ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และทำให้เนื้อสัตว์มีรสชาติเค็ม การเค็มก็เป็นวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์โดยใช้เกลือเพื่อดึงน้ำออกจากเนื้อสัตว์เช่นกัน แต่การเค็มจะใช้เวลานานกว่าการดอง


การแปรรูปเนื้อสัตว์มีประโยชน์หลายประการ

นอกจากวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์ในสมัยโบราณแล้ว ในปัจจุบันยังมีวิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์อีกมากมาย เช่น การบด การผสม การปรุงแต่งรส การบรรจุ เป็นต้น วิธีการแปรรูปเนื้อสัตว์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าของเนื้อสัตว์และทำให้เนื้อสัตว์มีรสชาติและรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น อาหารจากเนื้อสัตว์

ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ไส้กรอก แฮม เบคอน ลูกชิ้น เนื้อสัตว์รมควัน เป็นต้น ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปเหล่านี้สามารถรับประทานได้หลากหลายวิธี เช่น รับประทานเป็นอาหารหลัก รับประทานเป็นกับข้าว หรือรับประทานเป็นอาหารว่าง


5 views2 comments

Recent Posts

See All
Post: Blog2_Post
bottom of page