เลี้ยงปลา ธรรมชาติดีอย่างไร
เลี้ยงปลา ปลาธรรมชาติ คือ การเลี้ยงปลาในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยอาศัยพืชน้ำและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหารหลัก โดยไม่ใช้อาหารเสริมจากภายนอกมากนัก
เลี้ยงปลาอะไรดีธรรมชาติมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
ประหยัดต้นทุนในการเลี้ยง เนื่องจากไม่ต้องใช้อาหารเสริมจากภายนอกมากนัก
ปลามีรสชาติดี เนื่องจากได้กินอาหารตามธรรมชาติ
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ
ขั้นตอนการเลี้ยงปลาธรรมชาติ มีดังนี้
เตรียมบ่อเลี้ยง บ่อเลี้ยงควรมีขนาดเหมาะสมกับจำนวนปลาที่จะเลี้ยง บ่อควรมีระบบน้ำไหลเวียนดี เพื่อไม่ให้น้ำเน่าเสีย
ปรับสภาพบ่อ ก่อนปล่อยปลาลงบ่อ ควรปรับสภาพบ่อให้เหมาะสมกับปลาที่จะเลี้ยง โดยปรับระดับน้ำให้เหมาะสม ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มปริมาณอาหารให้กับปลา
ปล่อยปลา ควรเลือกปลาที่กินพืชน้ำเป็นอาหารหลัก เช่น ปลาตะเพียน ปลานิล ปลาเทโพ เป็นต้น อัตราการปล่อยปลาควรอยู่ที่ประมาณ 10-20 ตัว/ตารางเมตร
ดูแลรักษา ควรหมั่นตรวจสอบคุณภาพน้ำในบ่ออย่างสม่ำเสมอ หากน้ำเน่าเสีย ควรถ่ายน้ำออกและเติมน้ำใหม่ ปลาสวยงาม
จับปลา ปลาธรรมชาติสามารถจับขายได้เมื่อมีขนาดโตพอ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน
ตัวอย่างปลาที่เลี้ยงแบบธรรมชาติได้ มีดังนี้
ปลาตะเพียน
ปลานิล
ปลาเทโพ
ปลากะพงขาว
ปลาทับทิม
ปลาสลิด
ปลายี่สก
เลี้ยงปลาระยะสั้นธรรมชาติเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงปลาไว้รับประทานหรือจำหน่าย โดยอาศัยธรรมชาติเป็นตัวช่วยในวิธีการเลี้ยงปลา ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนและปลามีรสชาติดี
เลี้ยงปลาอะไร กำไรดี
ปลาที่เลี้ยงแล้วกำไรดี หมายถึง ปลาที่มีความต้องการในตลาดสูง และสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูง ปลาที่เลี้ยงแล้วกำไรดี ได้แก่
ปลานิล เป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการบริโภคมากที่สุด เนื่องจากมีรสชาติดีและราคาไม่แพง ปลานิลสามารถจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท
ปลาทับทิม เป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการบริโภค เนื่องจากมีรสชาติดีและเนื้อแน่น ปลาทับทิมสามารถจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 200-300 บาท
ปลาดุก เป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการบริโภค เนื่องจากมีรสชาติดีและราคาไม่แพง ปลาดุกสามารถจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท
ปลาหมอสี เป็นปลาสวยงามที่มีราคาสูง ปลาหมอสีที่มีสีสันสวยงามสามารถจำหน่ายได้ในราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท
ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำไรในการเลี้ยงปลา ได้แก่
ราคาตลาด ราคาตลาดของปลาจะผันผวนตามอุปสงค์และอุปทาน หากราคาปลาในตลาดสูง กำไรจากการเลี้ยงปลาก็จะสูงตามไปด้วย อาหารปลา
ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการผลิตในการเลี้ยงปลา ได้แก่ ต้นทุนพันธุ์ปลา ต้นทุนอาหาร ต้นทุนค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าแรงงาน หากต้นทุนการผลิตต่ำ กำไรจากการเลี้ยงปลาก็จะสูงตามไปด้วย
เทคนิคการเลี้ยง หากผู้เลี้ยงมีเทคนิคการเลี้ยงที่ดี ปลาก็จะเจริญเติบโตได้เร็วและมีคุณภาพดี ส่งผลให้ปลามีราคาขายสูงขึ้น
หากผู้เลี้ยงสามารถคัดเลือกปลาที่เหมาะสมกับตลาดและมีการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ปลาก็จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและมีราคาขายสูง ส่งผลให้ผู้เลี้ยงมีกำไรจากปลาเลี้ยงง่าย